การจัดการความรู้
เรื่อง การเขียนโครงร่างการวิจัย (Proposal)
วันที่ 15 – 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 09.00 – 15.00 น.
ณ ห้อง อ 205 ชั้น 2 อาคารอำนวยการ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น
ผู้ที่รับผิดชอบ
- ดร.สิรินี ว่องวิไลรัตน์
- อาจารย์วลัยลักษณ์ พันธุรี
การเขียนโครงร่างวิจัย
- ชื่อเรื่อง : ต้องชัดเจนไม่สั้นหรือยาวเกินไป เป็นเรื่องแปลกใหม่ น่าสนใจและมีคุณค่า รวมทั้งมีความสามารถที่จะทำการวิจัยได้
- ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา : เป็นการบรรยายให้เห็นว่าเรื่องที่จะทำการวิจัยนี้มีความเป็นมาและมีความสำคัญอย่างไรจึงต้องทำการวิจัย มักจะเริ่มต้นการเขียนถึงสภาพแวดล้อมแบบกว้าง ๆ เข้ามาสู่เรื่องแคบ ๆ แล้วสรุปให้เห็นปัญหาการวิจัยจนทำให้ต้องทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
- วัตถุประสงค์ : เป็นการบอกจุดมุ่งหมายในการทำวิจัยเรื่องนี้ ศ.ดร.นงลักษณ์ วิรัชชัย บอกไว้ว่าการกำหนดวัตถุประสงค์อย่างแรกที่ใช้ คือ เพื่อบรรยาย ต่อมาก็ เพื่อสำรวจ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ทำได้ง่ายที่สุด สูงขึ้นมาก็คือ เพื่อเปรียบเทียบ สูงขึ้นมาอีกก็คือ เพื่ออธิบาย สูงขึ้นไปอีกก็คือ เพื่อทำนายว่าในอนาคตจะเกิดอย่างไร สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งก็คือ เพื่อสังเคราะห์ผลการวิจัย ดีไปกว่านั้นก็คือ เพื่อประเมิน และอันสุดท้าย คือ เพื่อพัฒนาและตรวจสอบ เป็นวัตถุประสงค์ขั้นสูงสุดที่นักวิจัยอยากจะตั้งวัตถุประสงค์ให้ถึงขั้นนี้
- สมมติฐานของการวิจัย : เป็นการคาดคะเนผลที่จะได้จากการพิสูจน์ โดยการแสดงความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ทดสอบหรือพิสูจน์ได้ ซึ่งต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการวิจัย ในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพจะไม่เขียนสมมติฐานการวิจัย
- ขอบเขตการวิจัย : ประกอบด้วยขอบเขตด้านเนื้อหาจะศึกษาอะไรบ้าง และขอบเขตด้านระยะเวลาตั้งแต่เมื่อไรถึงเมื่อไร เขียนตามวัตถุประสงค์ในการวิจัย
- คำจำกัดความ : เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ปกติดูจากคำสำคัญ (key word) ของชื่อเรื่อง
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : ประโยชน์ที่จะเกิดจากการนำผลการวิจัยไปใช้ต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการวิจัย
- เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง : เป็นการทบทวนแนวคิดหรือทฤษฎีต่าง ๆ ที่จะนำมาเป็นกรอบความคิดในงานวิจัยของเรา หากเป็นงานวิจัยเชิงปริมาณจะให้ความสำคัญมากเพราะจะนำไปสู่การตั้งคำถามในแบบสอบถาม ส่วนการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นการทบทวนงานวิจัยที่ใกล้เคียงกับของเราซึ่งอาจใกล้เคียงในด้านความสำคัญของปัญหาการวิจัยหรือวิธีในการดำเนินการวิจัยก็ได้ การเขียนจะต้องเรียบเรียงความคิดให้เป็นระบบ มีการสรุปในตอนท้ายของแต่ละตอนและให้เชื่อมโยงกับย่อหน้าต่อไปด้วย
- วิธีดำเนินการวิจัย : กล่าวถึงวิธีการที่ใช้ในการวิจัย โดยปกติอาจแบ่งการวิจัยออกเป็น 2 ชนิด คือ การวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ จะเลือกใช้วิธีการใดก็ตามขึ้นอยู่กับลักษณะของเรื่องที่จะทำการวิจัยและความถนัดหรือความสนใจของผู้วิจัยด้วย ในปัจจุบันวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาเอกมักใช้ทั้ง 2 รูปแบบควบคู่กันไป แต่ละรูปแบบมักจะกำหนดรายละเอียดในการดำเนินการวิจัยดังต่อไปนี้
9.1 การวิจัยเชิงคุณภาพ : ให้ระบุถึง
- การเข้าพื้นที่ทำอย่างไร กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (key informant) คือใคร
- เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ เทปบันทึกเสียง การจดบันทึก ตัวผู้วิจัย
- การเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ เอกสาร การสังเกตแบบมีส่วนร่วม/ไม่มีส่วนร่วม การสัมภาษณ์แบบทางการ/ไม่เป็นทางการการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก การสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ชุมชนแบบมีส่วนร่วม เป็นต้น
- ระยะเวลาในการศึกษา เริ่มตั้งแต่การเข้าพื้นที่จนกระทั่งถอนตัว
- การตรวจสอบข้อมูล ได้แก่ การตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (triangulation)
- การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การตีความสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย (inductive) การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis)
9.2 การวิจัยเชิงปริมาณ : ให้ระบุถึง
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ วิธีการเลือก จำนวน
- เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม โดยระบุถึงวิธีการสร้างเครื่องมือ การตรวจสอบเครื่องมือ
- การเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ วิธีการส่งแบบสอบถาม จำนวนที่ได้รับคืน
- การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเอกสารประกอบ
การเขียนโครงร่างการวิจัย
การเขียนโครงร่างการวิจัย
ภาพประกอบการจัดทำการจัดการความรู้